MAI KITSUNE WAIFU
Chapter 24 Favorable impession
(ขอเปลี่ยนชื่อจากหลิวยี่เป็นหลิวอี้นะครับ)
“หลิวอี้!”
หลิวอี้ฝึกตนอย่างตั้งใจ
ยิ่งกว่านั้นเขาฝึกตนด้วยพลังฉีสีแดง เขารู้สึกว่ามันสบายยิ่งนัก
มันเหมือนว่ากำลังเสพติดความรู้สึกนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้รับความสบาย
มีเสียงอันอ่อนหวานออกมาอย่างทันที เสียงตนี้ทำให้หลิวอี้ตื่นขึ้นมา
เมื่อชายคนนั้นเรียกเขาแล้วเขาไม่ได้ยิน
แต่เมื่อหญิงสาวเรียกเขาก็ได้ยิน
บางทีนี่อานมีบางอย่างทำกับเทคนิคที่เขากำลังฝึกอยู่!
เขาทำได้เพียงหันไปทางหญิงสาว
มันอาจเป็นไปได้ว่า...นี่เป็นพลังของความรักในตำนาน?
หลิวอี้เปิดตาขึ้นมา
เขามองไปทางหญิงสาวคนที่ยืนอยู่ก่อนเขา
เห็นว่าหลิวอี้มีลักษณะอ่อนแอ
หัวใจของมู่หลงเตี่ยก็อ่อนปวกเปียกทันที
เธอมองไปที่เบอร์เกอร์ในมือที่ถืออยู่เธอก็ได้แบ่งมันออกมาแล้ววางบนโต๊ะหลิวอี้
“เอ๊ะ....นี่คือ?...”
หลิวอี้มองไปที่เบอร์เกอร์ในความสับสนและถาม
“เบอร์เกอร์นี่มันรสชาติแย่มาก
มันเป็นของเสียที่โยนมาทางนี้ นายกินมันซะ”
มู่หลงเตี่ยพูดขณะที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
อย่างไม่คาดคิด หลิวอี้มองไปที่เบอร์เกอร์ด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า
มู่หลงเตี่ยสบสันมาก
“ทำไมนายยังไม่กินมันอีก?”
หลิวอี้กลืนน้ำลาย
เขาฝึกตนมาทั้งวันแต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นการฝึกตนก็ไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกหิว
ดูเหมือนว่าเวลาตอนบ่ายจะผ่านไปแล้ว
เขาไม่ได้กินอาหารสักมื้อในเมื่อคืนและตอนเช้า กระเพราะของเขากำลังส่งเสียงคำราม
เสียงที่คำรามนั้นมันฟังดูค่อนข้างจะดังซักหน่อย
หลิวอี้สามารถได้ยินเสียงนั้นชัดเจนและมู่หลงเตี่ยก็ได้ยินด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น ใบหน้าของหลิวอี้ก็แดงก่ำ
เชี่ย! นี่มันกระเพราะไร้ประโยชน์
หลิวอี้อยากจะตบตัวเอง
โคตรน่าอายเลย!
“ทำไมนายไม่กินในเมื่อนายหิว?!”
มู่หลงเตี่ยถามด้วยความสับสน
“ที่จริงแล้วรสชาติมันก็ดีนะ...มันแค่ฉันไม่ชอบรสชาตินี้”
“โอ้....”
หลิวอี้มองไปที่เบอร์เกอร์
เขาก็ยังคงไม่ได้หยิบมัน
นี่เป็นเบอร์เกอร์ที่มู่หลงเตี่ยกัดมันไปเล็กน้อย...
มันอาจเป็นไปได้ว่านี่คือการจูบทางอ้อมถ้าฉันได้กินมัน?....
แต่...ฉันไม่สามารถกินเบอร์เกอร์นี้ได้
“นายโอ้อะไรของนาย นายจะกินหรือไม่กิน?”
“คือฉันไม่...”
หลิวอี้กำลังเลียลิมฝีปาก
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ส่ายหัวของเขาและพูดว่าเขาไม่สามารถกินแฮมเบอร์เกอร์ได้
“ทำไมไม่? นายไม่ชอบฉัน?”
มู่หลงเตี่ยขมวดคิ้ว
หลิวยี่คนนี้! ฉันอุตส่าใจดีให้เบอร์เกอร์กับเขา
ทำไมเขาพูดไปมาแทนที่จะเป็นการขอบคุณ?!
จริงๆเลย
เราไม่สามารถพยายามที่จะเป็นผู้ชายที่เยี่ยมยอด
“ขอบคุณที่ให้อาหารผมนะ...แต่คุณปู้ของผมพูดไว้ว่าชายที่มีเกียติไม่ควรกินอาหารที่ให้มา!”
มู่หลงเตี่ยสับสนเข้าไปใหญ่
ตลอดชีวิตของเธอ
ผู้คนมากมายพยายามที่จะด้านที่ดีของเธอมันเยอะจะเธอนับไม่ไหว
ไม่เคยคิดเลยว่าหลิวอี้คนๆนี้แต่ต่างออกไปมากอย่างนี้!
มู่หลงเตี่ยไม่เคยใช้วิธีการที่หลิวอี้แสดงออกมามาก่อน
แล้วเธอก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมันด้วย
เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน?! ฉันพยายามอย่างดีและให้เขากินเบอร์เกอร์แต่เขาตอบแทนด้วยการชายที่มีเกียติไม่ควรกินอาหารที่ได้รับมา!
“ถ้านายไม่กินมัน งั้นก็ไม่เป็นไร
ไปเลยแล้วก็หิวตายไปซะ!”
มู่หลงเตี่ยไม่มีความสุขอย่างมาก
เธอหยิบเบอร์เกอร์ของเธอขึ้นมาและปามันทิ้งไป
"Pa!"
และในเวลานั้นเอง
หลิวอี้ก็ยื่นมือออกไปอย่างฉับพลัน
เขาจับไปที่เบอร์เกอร์ของมู่หลงเตี่ยที่ปามันออกมา
เขาตอบโต้ได้เร็วมาก
เขากำลังคิดไปที่อดีตของมู่หลงเตี่ย
“อะไร นายทำอะไร?!”
เธอเห็นหลิวอี้ที่กำลังจับเบอร์เกอร์ของเธอและตกใจ
ผู้ชายคนนี้คว้าเบอร์เกอร์ได้เร็วมาก.....
“นายพูดไม่ใช่หรอว่าจะไม่กินมัน?!”
มู่หลงเตี่ยถามด้วยความแปลกใจขณะที่หลิวอี้จับเบอร์เกอร์ไปใกล้ปากเลื่อยๆ
“มิสหลง คุณคงไม่รู้ถึงคุณค่าของอาหาร! แม้ว่าคุณปู่ของผมได้พูดไว้ว่าผู้ชายที่มีเกียติจะไม่กินอาหารที่ได้รับมา
เขาพูดด้วยว่ามันน่าเสียดายที่มันจะเสีย”
หลิวอี้กัดไปที่เบอร์เกอร์
มันไม่รู้หรือว่าเขาทำลงไปด้วยความมีสติหรือไม่แต่เขากัดไปที่เดียวกับที่มู่หลงเตี่ยกัดไปแล้ว
หัวใจของมู่หลงเตี่ยช็อกกับสิ่งที่เกิดชึ้น
หน้าของเธอร้อนราวกับว่าเธอเป็นใข้
โอ้สวรรค์...
ฉันลืมสิ่งนั้นไปจริงๆ...สิ่งนั้น...ฉันได้กัดเบอร์เกอร์ไปแล้ว...
เขากัดไปที่เดียวกับฉันที่กัดไป...
งั้น...มันอาจจะคิดได้ว่านี่เป็นการ...จูบทางอ้อม?
ไม่ ไม่ นั้นมันเป็นไปไม่ได้
เป็นไปไม่ได้แน่นอน...
มันเป็นแค่เบอร์เกอร์ถูกๆ
ไม่มีทางที่เบอร์เกอร์นี้จะเอาจูบแรกของ มิสมู่หลงเตี่ยคนนี้ไปได้ ฮึ่ม!
หลิวอี้สังเกตเห็นว่าพลังฉีสีแดงภายในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในเวลาเดียวกัน
หลินตงก็กำลังหัวเราะจนเขาได้ยินภายในหูของเขา
“มู่หลงเตี่ย
ความปรับทับใจได้เพิ่มขึ้นมาหนึ่ง”
“หะ?”
หลิวอี้แปลกใจ มันหมายความว่าอะไร
“นาย...นาย...นายระวังตัวไว้จะดีกว่า...หลันเหอได้ไปพบกับเควินเพื่อที่จะหักขานายในคืนนี้
ฉันได้บอกนายแล้วว่าฉันมาเพื่ออะไร คิดให้ดีล่ะว่านายต้องทำยังไงต่อไป!”
หลังจากที่พูดคำนั้นออกมา
มู่หลงเตี่ยก็วิ่งออกไปราวกับเธอกำลังวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
หลิวอี้กลายเป็นไอโง่
เชี่ยไรวะน่ะ?
หลันเห่อพบกับเควินเพื่อที่จะหักขาฉัน
เชี่ย!
ไอหลันเห้อคนนี้มันเลือกใช้วิธีกาที่ไร้ค่ามาก
เขาพยายามโจมตีฉันในความมืด!
ไม่ใช่ว่าเรายอมรับในการแข่งบาสแล้ว?!
แล้วมันกลายมาเป็นจะหักขาฉันได้ไง?!
น่าเกลียดโคตร!
หลิวอี้สับสนอย่างมาก เขาโกรธมากที่ร่างกายนี้กำลังสั่น
“ตอนนี้นายเข้าใจแล้วใช่ใหม?!”
หลินตงปรากฏขึ้นมาต่อหน้าหลิวอี้ในรูปร่างจิ้งจอกของเธอ
เธอกำลังหัวเราะด้วยเสียง ฮี่ ฮี่
“อย่างที่พูดไป
มันยากที่จะเข้าใจจิตใจของผู้คน ดู ประเภทของผู้คนที่เป็นอยู่
นายก็บอกไม่ได้อยู่ดี!”
มันเป็นเพราะไม่รู้หรือว่าจิ้งจอกน้อยพูดเพื่อให้หลิวอี้ได้ยินหรือเพื่อตัวเธอ
“ฉันจะคิดแค่ว่าคืนนี้ฉันจะวิ่งหนีอย่างไง...”
หลิวอี้ไม่ชอบการต่อสู้
แม้ว่าเขาจะเป็นดาวหยกแรกได้แล้ว
จำนวนพลังอมตะภายในของเขาก็ยังคงน้อยมาก
นอกจากนี้
หลิวอี้ยังไม่เคยต่อสู้มาก่อนและกำไม่รู้วิธีการด้วย
“นายมันไม่มีอะไรดี
ทำไมถึงพยายามจะวิ่งหนีด้วย?! นายได้กลายเป็นผู้ฝึกตนอมตะแล้วนะ ทำไมนายยังคงกลัวกับแค่มนุษย์กลุ่มหนึง?!”
จิ้งจอกน้อยตำหนิ “ไร้ประโยชน์ซะจริง
นายมันไร้ประโยชน์จริงๆ”
หลิวอี้โดนเยาะเย้ย
“เจ้าโง่
พวกอันธพาลมันก็แค่ใช่ทุกวิถีทางเพื่อที่จะอยู่เหนือนาย
วิธีการที่นายแสดงอยู่ออกมามันไม่ได้ช่วยให้นายดูมีเมตตา
มันเป็นเพียงแค่จะทำให้นายดูง่ายที่จะถูกรังแกเท่านั้น เข้าใจหรือยัง?!”
หลินตงชี้ไปที่หลิวอี้แล้วตำหนิ
“ฉันไม่รู้สิ่งที่ปู่นายพูดอะไรเอาไว้แต่พวกมันกำลังจะหักขานาย ถ้ามันเป็นฉัน
หลินตง ล่ะก็ฉันจะให้พวกมันได้เห็น ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!”
“เธอ...เธอหมายความว่าจะให้ฉันหักขาเขางั้นหรอ?!”
หลิวอี้แปลกใจอย่างที่สุด
“นั่นมันแน่นอน ถ้านายไม่ทำให้พวกมันเจ็บตัวบ้างแล้วพวกมันก็จะไม่จำ”
หลินตงพูดต่อไป
“ไม่มีใครในโลกนี้ที่...โง่เหมือนนาย...มีคนนับไม่ถ้วนที่จะทำร้ายนาย
ถ้านายยังทำตัวเป็นไอโง่อยู่ สักวันหนึ่ง นายจะไม่รู้แม้แต่ว่านายตายยังไง!”
“ฉันยังคงเชื่อว่ามีคนมากมายในโลกนี้ที่เป็นคนดี...”
หลิวอี้ยืนหยัดกับความเชื่อของเขา
“เจ้าโง่! นายกำลังทำให้ฉันโมโห! ทำไมฉันต้องมาอยู่กับไอโง่อย่างนายด้วย?!”
ด้วยความโกรธ
หลินตงสลายตัวเองเข้าไปในอกของหลิวอี้
อย่างไรก็ตาม
เป็นเพราะว่าร่างกายของเธอเป็นจิตวิญญาณ เธอจึงพุ่งผ่านล่างของหลิวอี้ไป
“โอเค โอเค... เราค่อยคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนกลางคืน”
เห็นว่าผู้คนเริ่มจะกลับเข้ามาในห้องเรียน
หลิวอี้เบาเสียงเขาลงและกระซิบชณะกำลังกินเบอร์เกอร์ของมู่หลงเตี่ย
“เธอพูดว่ามู่หลงเตี่ยความประทับใจเพิ่มขึ้นหนึ่งก่อนหน้านี้สินะ
เธอหมายความว่ายังไง?!”
“Heng heng นายไม่รู้เกี่ยกับมันหรอ เจ้าโง่น้อย!”
อีกครั้งที่พวกเขาเริ่มพูดเกี่ยวข้องกับการฝึกตนอมตะ
จิ้งจอกน้อยก็ภูมิใจในตัวเองทันที
“วิธีการฝึกตนอมตะนั้นอัฉริยะคนนี้จะบอกความลับของเทคนิคตระกูลจิ้งจอกให้นาย
พระสูตรหัวใจจิ้งจอกสววรค์! ชายคนใดที่ได้ฝึกเทคนิคนี้จะรวบรวม...จะชนะความประทับใจของหญิงสาวเพื่อที่จะเพิ่มพลังตัวเอง!”
หลินตงเกือบจะหลุดปากออกไปและพูดว่าเขาจะรวบรวมหยินปรับปรุงหยาง
โชคดีที่เธอหยุดทัน
แล้วก็แก้คำพูดของเธอ
“นั่นฉันรู้...”
“อืมมมม...นี่คือสิ่งจำเป็นที่ต้องทำก่อน
สิ่งที่เหมือนกับการเพิ่มความประทับใจไม่ใช่บางสิ่งที่คนๆหนึ่งจะเข้าใจ ดังนั้น
พระสูตรหัวใจจิ้งจอกสวรรค์มีประเภทของพลังพิเศษ เมื่อนายเปิดดาวหยกแรกได้แล้ว
นายมีกาศที่จะได้รับความสามารถที่จะช่วยเหลือได้! นายโชคดีมากนายได้รับความสามารถจาการเปิดดาวหยกแรกแล้ว ความสามารถที่นายได้รับมาคือ
ดวงตาแห่งความประทับใจ”
หลินตงกำลังบอกตัวเองในใจว่าตระกูลจิ้งจอกสวรรค์นั้นกำลังจะตายแล้ว
ขณะที่เป็นศิษย์ของตระกูลเพียงผู้เดียว...มันคือหน้าที่ที่จะฟื้นฟูตระกูล
เธอจะต้องหนีออกมาจากผนึกในไม่ช้าถ้าเป็นไปได้!
“ดวงตาแห่งความประทับใจ? มันคือบ้าอะไร?”
หลิวอี้แปลกใจเล็กน้อย
“นี่คือความสามารถของดาวหยกแรกของนาย”
หลินตงพูด
“นายจะได้รับความสามารถทุกครั้งที่เปิดดาวหยก ยกตัวอย่างเช่นฝ่ามือคลื่นเสน่ห์
นั่นคือความสามารถของคุณหญิงคนนี้ ตอนนี้มันได้กลายเป็นของนาย”
“เธอ...รีบเอาความสามารถนั้นกลับไปเร็วเข้า...”
หลิวอี้พูด
“เจ้าโง่! นี่เป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยม! ในไม่ช้านายจะค้นพบวิธีใช้ความสามารถมารู้จบ!”
“ฉันคิดว่าในไม่ช้ามันจะทำให้ชีวิตของฉันวุ่นวายอย่างมากแทน...”
หลิวอี้มองไปที่มือของเขาแล้วถอนหายใจ
นี่เป็นความสามารถที่หลินตงแข็งแกร่งที่บังคับเขาอย่างจริงจัง
เขาควบคุมมันไม่ได้และไม่สามารถปิดมันได้
มันน่าสิ้นหวังเกินไป
แต่...ดวงตาดวงตาแห่งความประทับใจนี้...มันใช้ยังไง?
“ดาวหยกของนายในปัจจุบันยังพลังยังไม่เต็ม
ดังนั้นนายยังคงไม่สามารถรับรู้ถึงความสามารถนี้ได้ เมื่อดาวหยกของนายถูกเติมเต็มด้วยพลังแล้ว นายจะสามารถควบคุมและใช้ความสามรถวิเศษนี้ได้”
หลินตงพูด “ในเวลานี้น
นายคงสามารถเห็นความประทัยใจของหญิงสาวที่มีต่อนายได้ ถ้ามีความประทับใจที่สูงมาก นายจะสามารถรับออร่าจากพวกเธอก็เพิ่มมากขึ้น...พลังแห่งความรักนั้น...นายจะสามารถเปลี่ยนไปเป็นพลังของนายได้
เข้าใจหรือยัง?”
“โอ้
โอ้...ฉันคิดว่าเข้าใจนะ...แล้วเมื่อไหร่พลังดาวหยกแรกจะเต็มละ?...”
หลิวอี้ถาม
“มันยังเร็วไป...”
หลินตงกลอกตา นายตั้งใจที่จะบ่มเพราะหรือเปล่า?!
การที่สามารถเปิดประตูดาวหยกในวันแรกของนายที่ฝึกมันก็น่าประหลาดใจมากพอแล้ว
โอเค้?!”
ฉันนี่อย่างอิจฉาเลย!
และแม้แต่ได้รับความสามารถจากดาวหยกแรกด้วย!
น่ารังเกียจมาก! ฉันเปิดดาวหยกได้ทั้งสิ้นสี่ดาวหยก
มีเพียงแค่ดาวหยกที่สามเท่านั้นที่ฉันได้รับฝ่ามือคลื่นเสน่ห์! ฉันแม้แต่ให้เขายืมอย่างฟรีๆ!
และผู้ชายคนนี้กลับไม่พอใจกับมัน!
“ฉันอยากเห็นระดับของความประทับใจตอนนี้เลย...”
หลิวอี้มองขึ้นไป
เขามองเห็นเด็กสาวและผู้ชายกำลังใก้ลเข้ามา
อะไรคือระดับความประทับใจที่พวกเขามีต่อฉันกัน?
“น่ารำคาญน่า...”
หลินตงบ่นก่อนที่จะหันไปทางแสงสีขาวและเข้าไปทางดวงตาขวาของหลิวอี้
พลังของหลิวอี้นั้นไม่เพียงพอดังนั้นเธอจบลงด้วยการใช้พลังจิตวิญญาณของเธอเสริมเข้าไป
ในพริบตา
หลิวยี่ก็สังเกตเห็นคำกลายเป็นบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
นั้นเป็นเพราะบนหัวของทุกคนมีแถวของตัวเลข
เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าแถวตอนนี้
ระดับความประทับใจของเธอที่มีต่อเขาคือศูนย์
เด็กสาวรอบๆเธอก็มีระดับทั้ง
หนึ่งและศูนย์
เห้อ
ดูเหมือนว่าฉันนี่มันจืดจางจริงๆ...
ในเวลานั้นเอง ลูกเจี๊ยบอ้วนคนที่เก็บเล็บเท้าของเธอขึ้นมาในห้องเรียน
มันช่วยไม่ได้ที่ตัวเขาจะชำเลืองมองเธอ
และทันใดนั้น เขาแข็งเป็นหิน
ระดับความประทับใจ ห้าสิบแปด!
โอ้พระเจ้า!

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น